tag:blogger.com,1999:blog-70846485357070076792024-03-13T23:52:20.358-07:00แผนการสอนคณิตศาสตร์แผนการสอนรูปสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยมUnknownnoreply@blogger.comBlogger12125tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-61456675555308490642009-03-21T20:48:00.000-07:002009-03-21T20:58:21.673-07:00แผนการสอนคณิตศาสตา ป. 5 เรื่อง รูปสี่เหลี่ยม<a href="http://4.bp.blogspot.com/_WL23YEIJFIk/ScW12xqxQHI/AAAAAAAAABs/W_7t7CELUTc/s1600-h/PIC_0034.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5315854887831027826" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 150px" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/_WL23YEIJFIk/ScW12xqxQHI/AAAAAAAAABs/W_7t7CELUTc/s200/PIC_0034.jpg" border="0" /></a><br /><div></div><div></div><div></div><div></div><div></div><div></div><div></div><div></div><div><span style="font-size:180%;color:#660000;"><strong>1. มาตรฐานการเรียนรู้ / เป้าหมายการเรียนรู้</strong></span><br />ค 3.1 ข้อ 1 จำแนกชนิดของรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติได้<br />ข้อ 2 บอกสมบัติของรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ และสามารถนำไปใช้ในการ แก้ปัญหาได้<br />ข้อ 3 สร้างรูปเรขาคณิตสองมิติและประดิษฐ์รูปเรขาคณิตสามมิติได้<br /><br /><span style="font-size:180%;color:#990000;"><strong>2. ความคิดรวบยอด (Core Concept)</strong></span><br />2.1 สาระหลัก (นักเรียนต้องรู้อะไร)<br />- ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม<br />- การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก<br /><br /><br />2.2 ทักษะ / กระบวนการ (ปฏิบัติอะไรได้)<br />- จำแนกชนิดและบอกลักษณะของรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ<br />- สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากตามความยาวของด้านที่กำหนดให้<br /><br />2.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์<br />- เห็นความสำคัญในการเรียนเรื่องรูปสี่เหลี่ยม<br />- เห็นความสำคัญและมีทักษะในการสร้างรูปสี่เหลี่ยม<br /><br /><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"><strong>3. ความเข้าใจที่คงทน (ความรู้ที่ติดตัวคงทน)<br /></strong></span>1. ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม<br />2. การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก<br /><br /><span style="font-size:180%;color:#cc0000;">สาระสำคัญ</span><br />1. รูปสี่เหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยมุมภายในทั้ง 4 มุม รวมกันมีขนาด 360 องศา ชนิดของรูปสี่เหลี่ยมขึ้นอยู่กับขนาดของมุมและขนาดของด้าน<br />2. การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ต้องคำนึงถึงลักษณะของมุมที่ประกอบขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมทุกมุมจะต้องเป็นมุมฉาก<br />3. รูปสามเหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 3 ด้าน และมุม 3 มุม โดยมุมภายในทั้ง 3 มุม รวมกันมีขนาด 180 องศา ชนิดของรูปสามเหลี่ยมจะแบ่งตามลักษณะของด้านและลักษณะของมุม<br />4. รูปสามเหลี่ยมใดๆ เมื่อกำหนดให้ด้านหนึ่งเป็นฐาน จะได้ว่า มุมยอด เป็นมุมที่อยู่ตรงข้ามกับ ฐาน ด้านประกอบมุมยอด เป็นด้านสองด้านที่ประกอบเป็นมุมยอด และมุมที่ฐาน เป็นมุมที่มี ฐานเป็นแขนของมุม ความสูงของรูปสามเหลี่ยม เป็นความยาวของส่วนของเส้นตรงที่ลากจาก มุมยอดมาตั้งฉากกับฐาน<br /><span style="font-size:180%;color:#cc0000;"><strong>ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง</strong></span><br />1. เมื่อกำหนดรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ ให้ สามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมนั้นๆ ได้<br />2. เมื่อกำหนดความยาวของด้านให้ สามารถสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากได้<br />3. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมชนิดต่างๆ ให้ สามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสามเหลี่ยมนั้นๆ และบอกความสัมพันธ์ของรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า และรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วได้<br />4. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมให้ สามารถบอกฐาน มุมที่ฐาน มุมยอด และส่วนสูงได้<br />5. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมให้ สามารถหาขนาดของมุมภายในได้<br />6. เมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุมให้ สามารถสร้างรูปสามเหลี่ยมได้<br /><br /><br /><span style="font-size:180%;color:#cc0000;"><strong>สาระการเรียนรู้</strong></span><br />1. ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม<br />2. การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก<br />3. ชนิดของรูปสามเหลี่ยม<br />4. ส่วนประกอบของรูปสามเหลี่ยม<br />5. การหาขนาดของมุมภายในรูปสามเหลี่ยม<br />6. การสร้างรูปสามเหลี่ยม<br /><span style="font-size:180%;color:#33cc00;"><strong>กิจกรรมขั้นต้น (เวลา 1 ชั่วโมง)</strong></span><br />1. ครูทบทวนเกี่ยวกับรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก โดยครูวาดรูปบนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า<br />2. ครูจัดทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) โดยการแจกข้อทดสอบให้นักเรียนทุกคน แล้วให้นักเรียนเลือกวง รอบคำตอบที่ถูกที่สุด จากนั้นตรวจให้คะแนนโดยไม่ต้องเฉลยคำตอบ<br /><br /><span style="font-size:180%;color:#cc0000;"><strong>กิจกรรมที่ 1 ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม (เวลา 1 ชั่วโมง)<br />จัดกระบวนการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา (problem solving process)</strong></span><br />ขั้นทำความเข้าใจปัญหา<br />1. ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับลักษณะของรูปสี่เหลี่ยมว่า เป็นรูปที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยวาดรูปบนกระดานประกอบการสนทนา เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน<br />2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยให้นักเรียนเลือกกลุ่มเองตามความสนใจ<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเรื่องเกี่ยวกับชนิดของรูปสี่เหลี่ยม เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “รูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ เราจำแนกจากสิ่งใด” “รูปสี่เหลี่ยม มีทั้งหมดกี่ชนิด” เป็นต้น<br />ó วางแผนแก้ปัญหา<br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมได้ </div><div><span style="color:#ff0000;">ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล</span><br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จากภาพและข้อมูลในหนังสือ-เรียน (หน้า 83-84) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. ครูแจกบัตรภาพรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ อย่างละ 1 รูป ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันจัดประเภทตามเกณฑ์ที่ครูกำหนด ดังนี้<br />1) รูปที่มีมุมทุกมุมเป็นมุมฉาก<br />2) รูปที่มีด้านขนานกันเพียง 1 คู่<br />3) รูปที่มีด้านขนานกัน 2 คู่<br />4) รูปที่มีด้านทุกด้านยาวเท่ากัน<br />5) รูปที่มีด้านตรงข้ามยาวเท่ากัน แต่ด้านที่อยู่ติดกันยาวไม่เท่ากัน<br />จากนั้น ให้แต่ละกลุ่มนำรูปที่มีลักษณะตามที่ครูกำหนดติดบนกระดาน และให้นักเรียนบอกชื่อรูปสี่เหลี่ยมนั้นว่าเป็นชนิดใด<br /><span style="font-size:180%;color:#ff6666;">ตรวจสอบการแก้ปัญหา</span><br />1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญ เรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จนได้ข้อสรุปว่า<br />- รูปสี่เหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยมุมภายในทั้ง 4 มุม รวมกันมีขนาด 360 องศา ชนิดของรูปสี่เหลี่ยมขึ้นอยู่กับขนาดของมุมและขนาดของด้าน<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.1 ในหนังสือเรียน (หน้า 85) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม แล้วร่วมกันเฉลยบนกระดาน<br />3. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.1 ข้อ 1-2 ในหนังสือเรียน (หน้า 86) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมและเก็บเป็นผลงาน<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br /><br /><span style="font-size:180%;color:#3366ff;"><strong>กิจกรรมที่2 การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก (เวลา 1 ชั่วโมง)<br />ขั้นทำความเข้าใจปัญหา</strong></span><br />1. ครูสนทนากับนักเรียน เรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จากการเรียนครั้งที่แล้วเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม โดยครูเขียนรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันพิจารณาว่าเป็นรูปสี่เหลี่ยมชนิดใด<br />2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเดิมในการเรียนครั้งที่แล้ว จากนั้นครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุฉาก เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก มีหลักในการสร้างอย่างไร” เป็นต้น </div><div><span style="font-size:180%;color:#ff6600;"><strong>วางแผนแก้ปัญหา</strong></span><br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากได้<br />ó ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล<br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จากหนังสือเรียน (หน้า 87-88) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. ครูกำหนดโจทย์ปัญหา ให้นักเรียนสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความยาวของด้านตามที่กำหนด เช่น<br />สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กขคง ให้มีด้านยาว 4 เซนติเมตร ด้านกว้าง 3 เซนติเมตร จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอธิบายขั้นตอนการสร้างรูปตามโจทย์ ซึ่งจะได้ ดังนี้<br />1) ลากส่วนของเส้นตรง กข ยาว 4 เซนติเมตร<br />2) ใช้ไม้ฉากสร้างมุมฉากที่จุด ก ลากส่วนของเส้นตรง กค ยาว 3 เซนติเมตร<br />3) ใช้ไม้ฉากสร้างมุมฉากที่จุด ข ลากส่วนของเส้นตรง ขง ยาว 3 เซนติเมตร<br />4) ลากส่วนของเส้นตรง คง จะได้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กขคง ตามต้องการ<br />3. ครูกำหนดโจทย์ให้นักเรียนฝึกสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากในลักษณะต่างๆ อีกหลายๆ ข้อ<br /><span style="font-size:180%;"><span style="color:#ff9900;">ต</span><span style="color:#ff9900;"><strong><span style="color:#ff9900;">รวจ</span>สอบการแก้ปัญหา </strong></span></span><br />1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จนได้ข้อสรุปว่า<br />- การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ต้องคำนึงถึงลักษณะของมุมที่ประกอบขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมทุกมุมจะต้องเป็นมุมฉาก<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.2 ในหนังสือเรียน (หน้า 88-89) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม<br />3. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br />4. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.2 ในหนังสือเรียน (หน้า 90) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม<br />5. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ</div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-59711356882767664122009-03-21T20:43:00.001-07:002009-03-21T20:43:36.587-07:00Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-22801899357232967212009-03-21T20:39:00.000-07:002009-03-21T20:39:06.591-07:00แผนการสอนคณิตศาสตา ป. 5 เรื่อง รูปสี่เหลี่ยมUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-48533089007509239202009-03-21T19:44:00.000-07:002009-03-21T21:00:27.424-07:00แผนการสอนคณิตศาสตร์ ชั้น ป.5 เรื่อง รูปสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม<div><a href="http://2.bp.blogspot.com/_WL23YEIJFIk/ScWnBmIcJjI/AAAAAAAAAAk/GxLVgl4HMe0/s1600-h/atoon05_1.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5315838581038392882" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 318px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_WL23YEIJFIk/ScWnBmIcJjI/AAAAAAAAAAk/GxLVgl4HMe0/s320/atoon05_1.jpg" border="0" /></a><br />
<br /><div></div><br />
<br /><div><font color="#006600" size="5"><strong>แผนการสอนคณิตศาสตร์ ชั้น ป.5 เรื่อง รูปสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม</strong></font></div><br />
<br /><div><font size="5"><font color="#000099">สาระสำคัญ</font><br /></font>1. รูปสี่เหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยมุมภายในทั้ง 4 มุม รวมกันมีขนาด 360 องศา ชนิดของรูปสี่เหลี่ยมขึ้นอยู่กับขนาดของมุมและขนาดของด้าน<br />2. การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ต้องคำนึงถึงลักษณะของมุมที่ประกอบขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมทุกมุมจะต้องเป็นมุมฉาก<br />3. รูปสามเหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 3 ด้าน และมุม 3 มุม โดยมุมภายในทั้ง 3 มุม รวมกันมีขนาด 180 องศา ชนิดของรูปสามเหลี่ยมจะแบ่งตามลักษณะของด้านและลักษณะของมุม<br />4. รูปสามเหลี่ยมใดๆ เมื่อกำหนดให้ด้านหนึ่งเป็นฐาน จะได้ว่า มุมยอด เป็นมุมที่อยู่ตรงข้ามกับ ฐาน ด้านประกอบมุมยอด เป็นด้านสองด้านที่ประกอบเป็นมุมยอด และมุมที่ฐาน เป็นมุมที่มี ฐานเป็นแขนของมุม ความสูงของรูปสามเหลี่ยม เป็นความยาวของส่วนของเส้นตรงที่ลากจาก มุมยอดมาตั้งฉากกับฐาน<br /><font color="#3366ff" size="5"><strong>ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง</strong></font><br />1. เมื่อกำหนดรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ ให้ สามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมนั้นๆ ได้<br />2. เมื่อกำหนดความยาวของด้านให้ สามารถสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากได้<br />3. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมชนิดต่างๆ ให้ สามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสามเหลี่ยมนั้นๆ และบอกความสัมพันธ์ของรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า และรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วได้<br />4. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมให้ สามารถบอกฐาน มุมที่ฐาน มุมยอด และส่วนสูงได้<br />5. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมให้ สามารถหาขนาดของมุมภายในได้<br />6. เมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุมให้ สามารถสร้างรูปสามเหลี่ยมได้<br /><br /><br /><font color="#999900" size="5"><strong>สาระการเรียนรู้</strong></font><br />1. ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม<br />2. การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก<br />3. ชนิดของรูปสามเหลี่ยม<br />4. ส่วนประกอบของรูปสามเหลี่ยม<br />5. การหาขนาดของมุมภายในรูปสามเหลี่ยม<br />6. การสร้างรูปสามเหลี่ยม<br /><font color="#009900"><strong>กิจกรรมขั้นต้น (เวลา 1 ชั่วโมง)</strong></font><br />1. ครูทบทวนเกี่ยวกับรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก โดยครูวาดรูปบนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า<br />2. ครูจัดทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) โดยการแจกข้อทดสอบให้นักเรียนทุกคน แล้วให้นักเรียนเลือกวง รอบคำตอบที่ถูกที่สุด จากนั้นตรวจให้คะแนนโดยไม่ต้องเฉลยคำตอบ<br /><br /><br /><font color="#ff0000" size="5"><strong>กิจกรรมการเรียนรู้<br />กิจกรรมที่ 2 ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม (เวลา 1 ชั่วโมง)<br />จัดกระบวนการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา (problem solving process)<br /></strong></font>ขั้นทำความเข้าใจปัญหา<br />1. ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับลักษณะของรูปสี่เหลี่ยมว่า เป็นรูปที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยวาดรูปบนกระดานประกอบการสนทนา เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน<br />2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยให้นักเรียนเลือกกลุ่มเองตามความสนใจ<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเรื่องเกี่ยวกับชนิดของรูปสี่เหลี่ยม เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “รูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ เราจำแนกจากสิ่งใด” “รูปสี่เหลี่ยม มีทั้งหมดกี่ชนิด” เป็นต้น<br />วางแผนแก้ปัญหา<br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมได้<br />ó ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล<br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จากภาพและข้อมูลในหนังสือ-เรียน (หน้า 83-84) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. ครูแจกบัตรภาพรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ อย่างละ 1 รูป ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันจัดประเภทตามเกณฑ์ที่ครูกำหนด ดังนี้<br />1) รูปที่มีมุมทุกมุมเป็นมุมฉาก<br />2) รูปที่มีด้านขนานกันเพียง 1 คู่<br />3) รูปที่มีด้านขนานกัน 2 คู่<br />4) รูปที่มีด้านทุกด้านยาวเท่ากัน<br />5) รูปที่มีด้านตรงข้ามยาวเท่ากัน แต่ด้านที่อยู่ติดกันยาวไม่เท่ากัน<br />จากนั้น ให้แต่ละกลุ่มนำรูปที่มีลักษณะตามที่ครูกำหนดติดบนกระดาน และให้นักเรียนบอกชื่อรูปสี่เหลี่ยมนั้นว่าเป็นชนิดใด<br />ตรวจสอบการแก้ปัญหา<br />1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญ เรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จนได้ข้อสรุปว่า<br />- รูปสี่เหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยมุมภายในทั้ง 4 มุม รวมกันมีขนาด 360 องศา ชนิดของรูปสี่เหลี่ยมขึ้นอยู่กับขนาดของมุมและขนาดของด้าน<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.1 ในหนังสือเรียน (หน้า 85) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม แล้วร่วมกันเฉลยบนกระดาน<br />3. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.1 ข้อ 1-2 ในหนังสือเรียน (หน้า 86) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมและเก็บเป็นผลงาน<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br /><br />กิจกรรมที่ 3 การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก (เวลา 1 ชั่วโมง)<br />ขั้นทำความเข้าใจปัญหา<br />1. ครูสนทนากับนักเรียน เรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จากการเรียนครั้งที่แล้วเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม โดยครูเขียนรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันพิจารณาว่าเป็นรูปสี่เหลี่ยมชนิดใด<br />2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเดิมในการเรียนครั้งที่แล้ว จากนั้นครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุฉาก เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก มีหลักในการสร้างอย่างไร” เป็นต้น<br />วางแผนแก้ปัญหา<br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากได้<br />ó ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล<br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จากหนังสือเรียน (หน้า 87-88) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. ครูกำหนดโจทย์ปัญหา ให้นักเรียนสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความยาวของด้านตามที่กำหนด เช่น<br />สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กขคง ให้มีด้านยาว 4 เซนติเมตร ด้านกว้าง 3 เซนติเมตร จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอธิบายขั้นตอนการสร้างรูปตามโจทย์ ซึ่งจะได้ ดังนี้<br />1) ลากส่วนของเส้นตรง กข ยาว 4 เซนติเมตร<br />2) ใช้ไม้ฉากสร้างมุมฉากที่จุด ก ลากส่วนของเส้นตรง กค ยาว 3 เซนติเมตร<br />3) ใช้ไม้ฉากสร้างมุมฉากที่จุด ข ลากส่วนของเส้นตรง ขง ยาว 3 เซนติเมตร<br />4) ลากส่วนของเส้นตรง คง จะได้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กขคง ตามต้องการ<br />3. ครูกำหนดโจทย์ให้นักเรียนฝึกสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากในลักษณะต่างๆ อีกหลายๆ ข้อ<br />ตรวจสอบการแก้ปัญหา<br />1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จนได้ข้อสรุปว่า<br />- การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ต้องคำนึงถึงลักษณะของมุมที่ประกอบขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมทุกมุมจะต้องเป็นมุมฉาก<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.2 ในหนังสือเรียน (หน้า 88-89) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม<br />3. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br />4. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.2 ในหนังสือเรียน (หน้า 90) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม<br />5. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br />กิจกรรมที่ 4 ชนิดของรูปสามเหลี่ยม (เวลา 1 ชั่วโมง)<br />ขั้นทำความเข้าใจปัญหา<br />1. ครูสนทนากับนักเรียนเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จากการเรียนครั้งที่แล้วเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม<br />2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเดิมในการเรียนครั้งที่แล้ว สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับชนิดของรูปสามเหลี่ยม เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ ชนิดของรูปสามเหลี่ยม เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “ชนิดของรูปสามเหลี่ยม จำแนกตามสิ่งใด” “รูปสามเหลี่ยม มีกี่ชนิด” เป็นต้น<br />วางแผนแก้ปัญหา<br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสามเหลี่ยมได้ถูกต้อง<br />ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล<br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง ชนิดของรูปสามเหลี่ยม ในหนังสือเรียน (หน้า 91-92) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกนำเสนอผลงานตามความพร้อม โดยยกตัวอย่างชนิดของรูปสามเหลี่ยม บนกระดานดำ เมื่อนำเสนอเสร็จครูจะอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น<br />3. ครูแจกบัตรภาพรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า และรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ขนาดต่างๆ กัน กลุ่มละ 10 – 12 รูป แล้วให้นักเรียนหาความสัมพันธ์ของด้านของรูปสามเหลี่ยมแต่ละรูปและร่วมกันสรุปลักษณะของรูปสามเหลี่ยมแต่ละชนิด<br />4. ครูทบทวนการวัดขนาดของมุม แล้ววาดรูปสามเหลี่ยมที่มีมุมขนาดต่างๆ กัน ให้นักเรียนวัดหาขนาดของมุมของรูปสามเหลี่ยมนั้น และเขียนขนาดของมุมและความยาวของด้านของรูปสามเหลี่ยมกำกับไว้ที่รูป<br />5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความยาวของด้านและขนาดของมุมของรูปสามเหลี่ยม ดังต่อไปนี้<br />1) รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า จะมีความยาวทุกด้านยาวเท่ากัน มุมทั้งสามมุม มีขนาด 60 องศา<br />2) รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว จะมีความยาวเท่ากันสองด้าน และมุมมีขนาดเท่ากันสองมุม<br />3) รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า ไม่มีด้านใดยาวเท่ากัน มุมทั้งสามมีขนาดไม่เท่ากัน<br />6. ครูให้นักเรียนจำแนกรูปสามเหลี่ยมตามลักษณะของมุม โดยครูนำรูปสามเหลี่ยมชนิดต่างๆ มาให้นักเรียนจัดกลุ่ม จากนั้น ครูแนะนำว่า การแบ่งชนิดของรูปสามเหลี่ยมตามลักษณะของมุม แบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมมุมแหลม และรูปสามเหลี่ยมมุมป้าน<br />ตรวจสอบการแก้ปัญหา<br />1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญเรื่อง ชนิดของรูปสามเหลี่ยม จนได้ข้อสรุปว่า<br />- รูปสามเหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 3 ด้าน และมุม 3 มุม โดยมุมภายในทั้ง 3 มุม รวมกันมีขนาด 180 องศา ชนิดของรูปสามเหลี่ยมจะแบ่งตามลักษณะของด้านและลักษณะของมุม<br />- ชนิดของรูปสามเหลี่ยม แบ่งตามลักษณะของด้าน ได้แก่ รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีด้านทั้งสามยาวเท่ากัน รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีด้านยาวเท่ากันสองด้าน และรูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีด้านทั้งสามด้านยาวไม่เท่ากัน<br />- ชนิดของรูปสามเหลี่ยม แบ่งตามขนาดของมุม ได้แก่ รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีมุมหนึ่งเป็นมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมมุมแหลม เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีทั้งสามมุมเป็นมุมแหลม และรูปสามเหลี่ยมมุมป้าน เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีมุมมุมหนึ่งเป็นมุมป้าน<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.3 ในหนังสือเรียน (หน้า 93) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม และร่วมกันเฉลยบนกระดาน<br />3. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.3 ข้อ 1, 2 ในหนังสือเรียน (หน้า 94) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมและเก็บเป็นผลงาน<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br /></div></div>Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-85785387021952983432009-03-21T19:16:00.001-07:002009-03-21T21:00:27.428-07:00แผนการสอนเรื่องรูปสี่เหลี่ยม ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5<div><a href="http://2.bp.blogspot.com/_WL23YEIJFIk/ScWlEq74-wI/AAAAAAAAAAc/ioa1Wdjqq64/s1600-h/dtoon35_1.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5315836434844285698" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; WIDTH: 199px; CURSOR: hand; HEIGHT: 288px" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_WL23YEIJFIk/ScWlEq74-wI/AAAAAAAAAAc/ioa1Wdjqq64/s320/dtoon35_1.jpg" border="0" /></a><br />
<br /><div><font color="#cc0000"><strong>แผนการสอน เรื่องรูปสี่เหลี่ยม ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 </strong></font></div>
<br /><div><strong><font color="#cc0000"></font></strong> </div>
<br /><div><font color="#009900" size="5"><strong>สาระสำคัญ<br /></strong></font>1. รูปสี่เหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยมุมภายในทั้ง 4 มุม รวมกันมีขนาด 360 องศา ชนิดของรูปสี่เหลี่ยมขึ้นอยู่กับขนาดของมุมและขนาดของด้าน<br />2. การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ต้องคำนึงถึงลักษณะของมุมที่ประกอบขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมทุกมุมจะต้องเป็นมุมฉาก<br />3. รูปสามเหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 3 ด้าน และมุม 3 มุม โดยมุมภายในทั้ง 3 มุม รวมกันมีขนาด 180 องศา ชนิดของรูปสามเหลี่ยมจะแบ่งตามลักษณะของด้านและลักษณะของมุม<br />4. รูปสามเหลี่ยมใดๆ เมื่อกำหนดให้ด้านหนึ่งเป็นฐาน จะได้ว่า มุมยอด เป็นมุมที่อยู่ตรงข้ามกับ ฐาน ด้านประกอบมุมยอด เป็นด้านสองด้านที่ประกอบเป็นมุมยอด และมุมที่ฐาน เป็นมุมที่มี ฐานเป็นแขนของมุม ความสูงของรูปสามเหลี่ยม เป็นความยาวของส่วนของเส้นตรงที่ลากจาก มุมยอดมาตั้งฉากกับฐาน<br /><font color="#009900" size="5"><strong>ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง</strong></font><br />1. เมื่อกำหนดรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ ให้ สามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมนั้นๆ ได้<br />2. เมื่อกำหนดความยาวของด้านให้ สามารถสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากได้<br />3. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมชนิดต่างๆ ให้ สามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสามเหลี่ยมนั้นๆ และบอกความสัมพันธ์ของรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า และรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วได้<br />4. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมให้ สามารถบอกฐาน มุมที่ฐาน มุมยอด และส่วนสูงได้<br />5. เมื่อกำหนดรูปสามเหลี่ยมให้ สามารถหาขนาดของมุมภายในได้<br />6. เมื่อกำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุมให้ สามารถสร้างรูปสามเหลี่ยมได้<br /> </div>
<br /><div><font color="#cc0000"><strong>กิจกรรมการเรียนรู้</strong></font><br />กิจกรรมที่ 1 ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม (เวลา 1 ชั่วโมง)<br />จัดกระบวนการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา (problem solving process)<br /><font color="#ff0000">ขั้นทำความเข้าใจปัญหา</font><br />1. ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับลักษณะของรูปสี่เหลี่ยมว่า เป็นรูปที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยวาดรูปบนกระดานประกอบการสนทนา เพื่อ<font color="#ff0000">นำเข้าสู่บทเรียน</font><br />2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยให้นักเรียนเลือกกลุ่มเองตามความสนใจ<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเรื่องเกี่ยวกับชนิดของรูปสี่เหลี่ยม เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “รูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ เราจำแนกจากสิ่งใด” “รูปสี่เหลี่ยม มีทั้งหมดกี่ชนิด” เป็นต้น<br /><font color="#ff0000">างแผนแก้ปัญหา</font><br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสี่เหลี่ยมได้<br /><font color="#ff0000">ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล</font><br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จากภาพและข้อมูลในหนังสือ-เรียน (หน้า 83-84) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. ครูแจกบัตรภาพรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ อย่างละ 1 รูป ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันจัดประเภทตามเกณฑ์ที่ครูกำหนด ดังนี้<br />1) รูปที่มีมุมทุกมุมเป็นมุมฉาก<br />2) รูปที่มีด้านขนานกันเพียง 1 คู่<br />3) รูปที่มีด้านขนานกัน 2 คู่<br />4) รูปที่มีด้านทุกด้านยาวเท่ากัน<br />5) รูปที่มีด้านตรงข้ามยาวเท่ากัน แต่ด้านที่อยู่ติดกันยาวไม่เท่ากัน<br />จากนั้น ให้แต่ละกลุ่มนำรูปที่มีลักษณะตามที่ครูกำหนดติดบนกระดาน และให้นักเรียนบอกชื่อรูปสี่เหลี่ยมนั้นว่าเป็นชนิดใด</div><br />
<br /><p><font color="#ff0000">ตรวจสอบการแก้ปัญหา<br /></font>1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญ เรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จนได้ข้อสรุปว่า<br />- รูปสี่เหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม โดยมุมภายในทั้ง 4 มุม รวมกันมีขนาด 360 องศา ชนิดของรูปสี่เหลี่ยมขึ้นอยู่กับขนาดของมุมและขนาดของด้าน<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.1 ในหนังสือเรียน (หน้า 85) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม แล้วร่วมกันเฉลยบนกระดาน<br />3. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.1 ข้อ 1-2 ในหนังสือเรียน (หน้า 86) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมและเก็บเป็นผลงาน<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br /><br /><font color="#ff0000">กิจกรรมที่ 2 การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก</font> (เวลา 1 ชั่วโมง)<br /><font color="#ff6666">ขั้นทำความเข้าใจปัญหา<br /></font>1. ครูสนทนากับนักเรียน เรื่อง ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม จากการเรียนครั้งที่แล้วเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม โดยครูเขียนรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่างๆ บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันพิจารณาว่าเป็นรูปสี่เหลี่ยมชนิดใด<br />2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเดิมในการเรียนครั้งที่แล้ว จากนั้นครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุฉาก เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก มีหลักในการสร้างอย่างไร” เป็นต้น<br /><font color="#ff0000">วางแผนแก้ปัญหา</font><br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากได้<br />ó ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล<br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จากหนังสือเรียน (หน้า 87-88) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. ครูกำหนดโจทย์ปัญหา ให้นักเรียนสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความยาวของด้านตามที่กำหนด เช่น<br />สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กขคง ให้มีด้านยาว 4 เซนติเมตร ด้านกว้าง 3 เซนติเมตร จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอธิบายขั้นตอนการสร้างรูปตามโจทย์ ซึ่งจะได้ ดังนี้<br />1) ลากส่วนของเส้นตรง กข ยาว 4 เซนติเมตร<br />2) ใช้ไม้ฉากสร้างมุมฉากที่จุด ก ลากส่วนของเส้นตรง กค ยาว 3 เซนติเมตร<br />3) ใช้ไม้ฉากสร้างมุมฉากที่จุด ข ลากส่วนของเส้นตรง ขง ยาว 3 เซนติเมตร<br />4) ลากส่วนของเส้นตรง คง จะได้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กขคง ตามต้องการ<br />3. ครูกำหนดโจทย์ให้นักเรียนฝึกสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากในลักษณะต่างๆ อีกหลายๆ ข้อ<br /><font color="#ff6666">ตรวจสอบการแก้ปัญหา<br /></font>1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จนได้ข้อสรุปว่า<br />- การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ต้องคำนึงถึงลักษณะของมุมที่ประกอบขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมทุกมุมจะต้องเป็นมุมฉาก<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.2 ในหนังสือเรียน (หน้า 88-89) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม<br />3. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br />4. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.2 ในหนังสือเรียน (หน้า 90) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม<br />5. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br />กิจกรรมที่ 3 ชนิดของรูปสามเหลี่ยม (เวลา 1 ชั่วโมง)<br /><font color="#ff6666">ขั้นทำความเข้าใจปัญหา</font><br />1. ครูสนทนากับนักเรียนเรื่อง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จากการเรียนครั้งที่แล้วเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม<br />2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามกลุ่มเดิมในการเรียนครั้งที่แล้ว สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับชนิดของรูปสามเหลี่ยม เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน<br />3. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ ชนิดของรูปสามเหลี่ยม เพื่อศึกษา<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปรวมเป็นประเด็นปัญหา เช่น “ชนิดของรูปสามเหลี่ยม จำแนกตามสิ่งใด” “รูปสามเหลี่ยม มีกี่ชนิด” เป็นต้น<br /><font color="#ff0000">วางแผนแก้ปัญหา</font><br />1. ครูแนะนำให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนหาวิธีแก้ปัญหา<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันและวางแผนฝึกปฏิบัติกิจกรรมเพื่อให้มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสามารถบอกลักษณะและจำแนกชนิดของรูปสามเหลี่ยมได้ถูกต้อง<br />ó ดำเนินการแก้ปัญหาและประเมินผล<br />1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมูลเรื่อง ชนิดของรูปสามเหลี่ยม ในหนังสือเรียน (หน้า 91-92) แล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้<br />2. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกนำเสนอผลงานตามความพร้อม โดยยกตัวอย่างชนิดของรูปสามเหลี่ยม บนกระดานดำ เมื่อนำเสนอเสร็จครูจะอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น<br />3. ครูแจกบัตรภาพรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า และรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ขนาดต่างๆ กัน กลุ่มละ 10 – 12 รูป แล้วให้นักเรียนหาความสัมพันธ์ของด้านของรูปสามเหลี่ยมแต่ละรูปและร่วมกันสรุปลักษณะของรูปสามเหลี่ยมแต่ละชนิด<br />4. ครูทบทวนการวัดขนาดของมุม แล้ววาดรูปสามเหลี่ยมที่มีมุมขนาดต่างๆ กัน ให้นักเรียนวัดหาขนาดของมุมของรูปสามเหลี่ยมนั้น และเขียนขนาดของมุมและความยาวของด้านของรูปสามเหลี่ยมกำกับไว้ที่รูป<br />5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความยาวของด้านและขนาดของมุมของรูปสามเหลี่ยม ดังต่อไปนี้<br />1) รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า จะมีความยาวทุกด้านยาวเท่ากัน มุมทั้งสามมุม มีขนาด 60 องศา<br />2) รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว จะมีความยาวเท่ากันสองด้าน และมุมมีขนาดเท่ากันสองมุม<br />3) รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า ไม่มีด้านใดยาวเท่ากัน มุมทั้งสามมีขนาดไม่เท่ากัน<br />6. ครูให้นักเรียนจำแนกรูปสามเหลี่ยมตามลักษณะของมุม โดยครูนำรูปสามเหลี่ยมชนิดต่างๆ มาให้นักเรียนจัดกลุ่ม จากนั้น ครูแนะนำว่า การแบ่งชนิดของรูปสามเหลี่ยมตามลักษณะของมุม แบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมมุมแหลม และรูปสามเหลี่ยมมุมป้าน<br /><font color="#ff0000">ตรวจสอบการแก้ปัญหา<br /></font>1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญเรื่อง ชนิดของรูปสามเหลี่ยม จนได้ข้อสรุปว่า<br />- รูปสามเหลี่ยม เป็นรูปปิดที่มีด้าน 3 ด้าน และมุม 3 มุม โดยมุมภายในทั้ง 3 มุม รวมกันมีขนาด 180 องศา ชนิดของรูปสามเหลี่ยมจะแบ่งตามลักษณะของด้านและลักษณะของมุม<br />- ชนิดของรูปสามเหลี่ยม แบ่งตามลักษณะของด้าน ได้แก่ รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีด้านทั้งสามยาวเท่ากัน รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีด้านยาวเท่ากันสองด้าน และรูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีด้านทั้งสามด้านยาวไม่เท่ากัน<br />- ชนิดของรูปสามเหลี่ยม แบ่งตามขนาดของมุม ได้แก่ รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีมุมหนึ่งเป็นมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมมุมแหลม เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีทั้งสามมุมเป็นมุมแหลม และรูปสามเหลี่ยมมุมป้าน เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีมุมมุมหนึ่งเป็นมุมป้าน<br />2. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะ 4.3 ในหนังสือเรียน (หน้า 93) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม และร่วมกันเฉลยบนกระดาน<br />3. ครูอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรมประเมิน 4.3 ข้อ 1, 2 ในหนังสือเรียน (หน้า 94) เสร็จแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมและเก็บเป็นผลงาน<br />4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยบนกระดาน โดยให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเขียนเฉลยกลุ่มละ 1 ข้อ นักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มสลับกันตรวจ<br /><br /><br /><font color="#ff0000">ทดสอบหลังเรียน (Post-test)</font><br />ครูจัดทดสอบหลังจากเรียนจบหน่วยนี้ โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบที่ 4 (หน้า 105) เพื่อให้นักเรียนประเมินตนเองว่า มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นหรือไม่<br />เสร็จแล้วร่วมกันเฉลยคำตอบแบบทดสอบโดยครูคอยอธิบายเพิ่มเติมในคำตอบที่นักเรียนยังไม่เข้าใจ<br />ครูเปรียบเทียบผลการทดสอบก่อนเรียนและทดสอบหลังเรียนของเด็กเป็นรายบุคคลและประมวลผล<br /><br />หมายเหตุ : เมื่อเรียนจบครูแจกบันทึกผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทุกคนบันทึกผลการเรียนรู้ แล้วส่งข้อมูลคืนครู เพื่อใช้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการประเมินผล<br /><br /><font color="#ff0000">สื่อและแหล่งการเรียนรู้<br /></font>1. สื่อการเรียนรู้ มมฐ. คณิตศาสตร์ ป. 5<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /></p></div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-47493405816527053782009-03-21T19:16:00.000-07:002009-03-21T19:16:39.802-07:00แผนการสอนUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-72718445135950195372009-03-21T02:09:00.002-07:002009-03-21T02:09:32.901-07:00แผนการสอนครูโบว์ค่ะUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-63865516830693884262009-03-21T02:09:00.000-07:002009-03-21T02:09:12.889-07:00ครูโบว์ เผยแพร่แผนการสอนค่ะเศษส่วนที่มองเห็นได้<br />Fraction Made Visual<br /><br />ช่วงชั้น: ช่วงชั้นที่ 2<br />สาระการเรียนรู้: คณิตศาสตร์<br />หัวข้อ: เศษส่วน<br />สาระสำคัญ: เศษส่วน เทคนิคการวิจัย การแก้ปัญหา<br />เวลาโดยประมาณ: 20 ครั้ง ครั้งละ 45 นาที รวมเวลาสำหรับนักเรียนรายบุคคลและกลุ่มย่อยในการทำงานคอมพิวเตอร์<br /><br />สรุปภาพรวมของหน่วยการเรียนรู้ / Unit Summary<br />นักเรียนจะเรียนรู้ความสำคัญของความแม่นยำทางคณิตศาสตร์และ สวมบทบาทในอาชีพที่ใช้เศษส่วนในหน้าที่การงาน หลังการทำวิจัย นักเรียนจะจัดทำและแลกเปลี่ยนงานนำเสนอด้วยมัลติมีเดียหรือจดหมายข่าวซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรู้เศษส่วนในอาชีพที่เลือก<br /><br />คำถามเพื่อกำหนดกรอบการเรียนรู้ / Curriculum Framing Questions<br />คำถามสร้างพลังคิด / Essential Questions <br />ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริงหรือ<br />คำถามประจำหน่วยการเรียนรู้ / Unit Questions<br />เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วน<br />จะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนเพื่อทำให้งานสำเร็จใช่หรือไม่<br />ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไรเศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วน<br />จะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนเพื่อทำให้งานสำเร็จใช่หรือไม่<br />ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไร<br /><br /><br /><br /><br /><br />คำถามประจำบทเรียน / Content Questions<br />เศษส่วนคืออะไร<br />เราบวก ลบ คูณและหารเศษส่วนได้อย่างไร<br />ความแตกต่างระหว่างเศษและส่วนคืออะไร<br />เราเปลี่ยนตัวเลขจำนวนคละเป็นเศษส่วนที่เศษมากกว่าหรือเท่ากับส่วน (improper fraction) ได้อย่างไร<br />กระบวนการประเมินนักเรียน / Assessment Processes<br />ศึกษาว่าการประเมินที่หลากหลายซึ่งเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางนำมาใช้ในแผนการจัดการเรียนรู้ การประเมินเหล่านี้ช่วยนักเรียนและครูกำหนดเป้าหมาย กำกับติดตามความก้าวหน้า แสดงความคิดเห็นย้อนกลับ ประเมินกระบวนการคิด การปฏิบัติงานและผลงาน รวมทั้งสะท้อนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นตลอดวงจรแห่งการเรียนรู้<br /><br />ขั้นตอนการสอน / Instructional Procedures<br />แนะนำหน่วยการเรียนรู้<br />เริ่มหน่วยการเรียนรู้โดยใช้คำถามประจำหน่วย เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วนกระตุ้นให้นักเรียนตอบคำถาม และบันทึกความคิดของตนเองไว้ในบันทึกทางคณิตศาสตร์ (DOC 48KB) ระหว่างสัปดาห์แรกของหน่วยการเรียนรู้ ให้แนะนำเศษส่วนโดยใช้งานนำเสนอของครูเรื่องเศษส่วนพื้นฐาน (PPT 119KB) เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจเศษส่วนในลักษณะที่เป็นรูปธรรม ให้นักเรียนได้มีประสบการณ์ตรงที่หลากหลายในการใช้เศษส่วนในชีวิตจริง ให้ตกแต่งคุกกี้ตามเศษส่วน แบ่งคุกกี้กระดาษในกลุ่มเพื่อน ศึกษาเรื่องเศษส่วนในชีวิตประจำวัน และจัดทำแม่แบบเศษส่วนของตนเอง หลังจากทำแต่ละกิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนถ่ายภาพชิ้นของเศษส่วนไว้ให้ห้องสมุด<br />ดิจิทัลของห้องเรียน ใช้ในโครงงานภายหลัง จดบันทึกการสอนขณะที่นักเรียนฝึกทักษะการบันทึกเป็นเอกสาร ซึ่งอาจต้องทบทวนก่อนทำหน่วยการเรียนรู้นี้ต่อแจกรูบริกโครงงาน (DOC 44.5KB) และอภิปรายข้อกำหนดของหน่วยการเรียนรู้ แจ้งให้นักเรียนทราบว่าเราจะใช้รูบริกนี้เพื่อประเมินการทำงานและความเข้าใจในเรื่องแนวคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เรียนรู้ตลอดหน่วยการเรียนรู้นี้<br /><br />การจัดทำและจัดพิมพ์จดหมายข่าว<br />สัปดาห์ที่สอง ให้นักเรียนมีประสบการณ์ตรงมากขึ้นเกี่ยวกับเศษส่วน ตอนท้ายของสัปดาห์ แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย และให้แต่ละกลุ่มเขียนสรุปกิจกรรมหนึ่งอย่างเพื่อที่จะจัดพิมพ์ในจดหมายข่าวของห้องเรียน (DOC 579KB)แจกเกณฑ์การให้คะแนนจดหมายข่าว (DOC 50.5KB) เพื่อใช้เป็นแนวสำหรับกระบวนการ ให้นักเรียนจัดประชุมระหว่างครูและเพื่อนร่วมงานเพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับงานเขียน สอนวิธีการทำหัวเรื่องบทความ การนำไปวางในงานเขียน และใส่กราฟิกหรือภาพถ่ายลงในแม่แบบจดหมายข่าวของห้องเรียนโดยใช้ซอร์ฟแวร์สิ่งพิมพ์ สั่งพิมพ์จดหมายข่าวและจัดส่งไปตามบ้านของนักเรียน<br /><br />การนำเสนอภาพรวมของโครงงาน<br />เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสำคัญของเศษส่วนและความถี่ของการใช้เศษส่วนในชีวิต นักเรียนเรียนรู้ว่าอาชีพต่าง ๆ ใช้เศษส่วนในงานได้อย่างไร<br />ใช้คำถามประจำหน่วย จะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และเศษส่วนจำเป็นต่อการทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยใช่หรือไม่ และความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไรให้นักเรียนเขียนคำถามลงในบันทึกทางคณิตศาสตร์ (DOC 48KB) รวบรวมบันทึกเป็นระยะ ๆ ตลอดหน่วยการเรียนรู้เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน และปรับการสอนสำหรับรายบุคคลหรือทั้งห้องเรียนหากจำเป็น แจ้งให้นักเรียนทราบว่า จะค้นพบคำตอบของคำถามเหล่านี้ได้ และคำถามประจำหน่วยที่นำเสนอก่อนหน้านี้โดยสวมบทบาทเป็นคนในสาขาอาชีพต่าง ๆ ที่ต้องใช้เศษส่วน ภาระหน้าที่คือค้นหาว่าเศษส่วนสำคัญอย่างไรต่ออาชีพ และความสามารถในการใช้เศษส่วนส่งผลต่อผลการปฏิบัติงานอย่างไร ท้ายที่สุด นักเรียนจะต้องแก้ปัญหาเศษส่วนในชีวิตจริงที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนั้น ๆ ในด้านใดด้านหนึ่ง และสรุปว่าจะนำมาใช้ในชีวิตของเราได้อย่างไร<br />มอบหมายหรือให้นักเรียนเลือกอาชีพที่ต้องใช้เศษส่วนเป็นประจำในการทำงาน หลังจากที่นักเรียนแต่ละคนเลือกได้อาชีพที่ต้องการแล้ว แจกรายการตรวจสอบนักเรียน (DOC 38KB) และอภิปรายข้อกำหนดของโครงงาน ต้องแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจภาระงานที่มอบหมายให้<br /><br />การทำวิจัยและรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการที่หลากหลาย<br />ก่อนที่เราจะให้นักเรียนทำวิจัยอาชีพที่เลือกแล้ว ให้อภิปรายหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะรวบรวมข้อมูลตามหัวข้อที่ต้องการ ให้ระดมสมองหารายการวิธีที่จะรวบรวมข้อมูลและเทคนิคในการค้นหาคำตอบ ถ้าเทคนิคการทำวิจัยที่สำคัญ เช่น การสัมภาษณ์ ไม่อยู่ในรายการ ให้แนะนำเพิ่มเติมด้วย หลังจากที่ทำรายการเสร็จแล้ว อภิปรายแต่ละเทคนิค ชี้ให้เห็นว่าการครอบคลุมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่หลากหลายและการใช้เทคนิคการวิจัยที่แตกต่าง เพิ่มความเชื่อถือและความสนใจต่อโครงงานวิจัยได้อย่างไร<br />จัดเตรียมรายชื่อเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับวิจัยอาชีพที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งแม่แบบทางอิเล็คทรอนิคส์หรือใบงานและบันทึกข้อมูล ใบงานช่วยนักเรียนในการจัดเรียบเรียงงานนำเสนอที่จะจัดทำต่อไป นอกจากนี้ สาธิตเทคนิคการสัมภาษณ์และอภิปรายความสำคัญของการรวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพนั้น ๆ ช่วยกันคิดคำถามสำหรับสัมภาษณ์ที่อาจจะสำคัญเพื่อซักถามผู้เชี่ยวชาญซึ่งสามารถช่วยกำหนดเกณฑ์ของโครงงานและตอบคำถามประจำหน่วย อภิปรายว่าสามารถใช้อีเมล์เป็นเครื่องมือที่จะสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญ เตือนนักเรียนเกี่ยวกับมารยาทและกฎที่ควรปฏิบัติตามเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ตและอีเมล์ แม้แต่เวลาที่ทำวิจัย เผื่อเวลาสองสามวันให้นักเรียนทำวิจัยและสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ<br />จัดทำข้อสรุปและการเชื่อมโยงบนพื้นฐานการวิจัย<br />หลังจากที่นักเรียนมีเวลามากพอที่จะรวบรวมและจัดเรียบเรียงข้อมูลว่านำเศษส่วนมาใช้ในแต่ละอาชีพได้อย่างไร ให้นักเรียนเริ่มคิดถึงการประยุกต์ใช้เศษส่วนของตนเอง ในปัจจุบันและอนาคต เตือนนักเรียนว่าในงานนำเสนอควรตอบคำถามประจำหน่วยต่อไปนี้<br /><br />เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่ หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วน<br />นำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนในการทำให้งานสำเร็จใช่หรือไม่<br />ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไร<br />ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริงหรือ ชี้แนะและช่วยนักเรียนเท่าที่จำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมโยงและทำข้อสรุป จัดการประชุมนักเรียนตลอดกระบวนการวิจัยและโครงงานเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนทำงานถูกต้อง ตอบคำถามและได้รับความเห็นที่มีคุณค่า<br />หลังจากที่นักเรียนเชื่อมโยงระหว่างอาชีพที่ได้รับมอบหมายและของตนเองแล้ว ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาปัญหาเศษส่วนในโลกที่เป็นจริงที่สะท้อนการเชื่อมโยง บอกให้นักเรียนทราบว่าต้องระบุปัญหาที่เกิดจริงในโลกและแสดงขั้นตอนทีละขั้น ถึงวิธีแก้ปัญหา ขณะที่นักเรียนแต่ละคนอธิบายกระบวนการที่ใช้ในแก้ปัญหา นักเรียนควรระบุและครอบคลุมคำตอบสำหรับคำถามประจำบทต่อไปนี้ด้วย<br /><br />เศษส่วนคืออะไร<br />เราบวก ลบ คูณและหารเศษส่วนได้อย่างไร<br />ความแตกต่างระหว่างเศษ และส่วนคืออะไร<br />เราเปลี่ยนเศษส่วนจำนวนคละเป็นเศษเกินได้อย่างไร<br />แนะนำและช่วยนักเรียนเท่าที่จำเป็น ขณะที่แก้ปัญหาและทำข้อสรุป<br /><br />การจัดทำงานนำเสนอ<br />หลังจากที่นักเรียนรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยและใช้กับปัญหาเศษส่วนในโลกแห่งความเป็นจริงที่เกี่ยวข้อง ให้แบบฟอร์มผังเค้าโครงเนื้อหาและสอนวิธีเริ่มกระบวนการจัดทำงานนำเสนอด้วยมัลติมีเดีย (PPT 242KB) ขั้นแรก ให้นักเรียนวางแผนงานนำเสนอด้วยการทำผังเค้าโครงให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ละผังเค้าโครงเนื้อหาควรครอบคลุมหัวเรื่องสไลด์และรายการหัวข้อย่อยของประเด็นสำคัญ เมื่อจัดทำผังเค้าโครงเนื้อหาเสร็จสมบูรณ์ ให้นัดพบกับนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อพูดคุยเรื่องงานนำเสนอและแนะนำสิ่งที่ต้องแก้ไข หลังจากที่ผังเค้าโครงเนื้อหาผ่านการเห็นชอบแล้ว ให้นักเรียนเริ่มทำสไลด์ ชี้แนะแนวทางและช่วยนักเรียนหากจำเป็นขณะที่จัดทำงานนำเสนอ<br /><br />การนำเสนองานด้วยปากเปล่า<br />หลังจากที่นักเรียนทำงานนำเสนอเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้จับคู่นักเรียน แต่ละคู่ให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการนำเสนองานด้วยปากเปล่า โดยสลับกันเป็นผู้สัมภาษณ์ และอีกคนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้เวลาหนึ่งหรือสองชั่วโมงในการคิดคำถามสำหรับสัมภาษณ์ และฝึกการนำเสนอ ผู้สัมภาษณ์ (ผู้ช่วยนักเรียน) ถามคำถาม และผู้เชี่ยวชาญ (คนนำเสนอ) โต้ตอบกับคำถามโดยใช้สไลด์เพื่อสนับสนุนประเด็นการพูดคุย จัดสรรเวลาให้นักเรียนนำเสนอโครงงาน อำนวยความสะดวกการอภิปรายภายหลังแต่ละการนำเสนอ อ้างอิงคำถามสร้างพลังคิดอีกครั้ง และให้นักเรียนใช้ข้อมูลที่เพิ่งนำเสนอเพื่อช่วยตอบคำถามต่อไปนี้<br /><br />ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริงหรือ<br />เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่ หรือเราจะดีขึ้นถ้าไม่มีเศษส่วน<br />จะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนเพื่อให้งานสำเร็จใช่หรือไม่<br />ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไร<br />บันทึกการโต้ตอบของนักเรียนลงในแผนภูมิ<br />หลังการนำเสนอทั้งหมด ให้ย้อนกลับไปที่แผนภูมิที่ทำเสร็จแล้ว และทำข้อสรุปเรื่องความสำคัญของเศษส่วน<br /><br />การจัดทำ wiki (ทางเลือก)<br />ตลอดหน่วยการเรียนรู้ ให้นักเรียนแก้คำปริศนาประจำวันโดยใช้ชุดเศษส่วน (หรืออื่น ๆ ที่เหมาะสม) ถ้ามีเวลาเพียงพอ ให้นักเรียนคิดปริศนาด้วยตนเองให้เพื่อนแก้คำปริศนา แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย และให้คิดคำปริศนา หลังจากที่แต่ละกลุ่มคิดได้แล้ว ให้จัดทำ wiki ที่มีคำปริศนา แบบฟอร์มการโต้ตอบสำหรับผู้ชมสามารถส่งคำตอบ และท้ายสุดพร้อมคำเฉลยที่อธิบายแนวทางแก้ไขคำปริศนา อนุญาตให้นักเรียนนำคำปริศนาบน wikiไปจัดพิมพ์ และรับฟังความเห็นจากเพื่อนร่วมห้อง พ่อแม่ เพื่อนทางอีเล็คทรอนิคส์ (ePALS) และอื่น ๆ ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ไกลกว่าห้องเรียน<br /><br /><br />สรุป<br />เปิดการอภิปรายเกี่ยวกับคำถามสร้างพลังคิด ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริง ๆ หรือ ให้นักเรียนจับคู่ร่วมคิด (Pair and Share) เพื่อพูดคุยหาคำตอบและความเห็นต่อคำถามสร้างพลังคิดโดยใช้ตัวอย่างจากงานวิจัยและโครงงาน ทำการสลับคู่และให้เวลานักเรียนแลกแลกเปลี่ยนกับเพื่อนคนอื่น ๆ จดบันทึกการสอนขณะที่มีการอภิปราย ทำเป็นลายลักษณ์อักษรความเข้าใจในแนวคิดรวบยอดที่เรียนของนักเรียนตลอดหน่วยการเรียนรู้ ให้นักเรียนบันทึกข้อคิดเห็นและความเห็นลงในบันทึกทางคณิตศาสตร์ (DOC 48KB) ของตนเอง<br /><br />ทักษะพื้นฐานเดิมของนักเรียน / Prerequisite Skills <br /><br />ประสบการณ์ในการนำเสนอด้วยอิเล็คทรอนิคส์และซอร์ฟแวร์สิ่งพิมพ์<br />ประสบการณ์การใช้เว็บเบราว์ซิ่ง<br />คุ้นเคยกับเศษส่วน<br />ความรู้พื้นฐานเรื่องหลักการการบวก การลบ การคูณ และการหาร<br />การดัดแปลงตามสภาพความต้องการที่แตกต่างกันของผู้เรียน / Differentiated Instruction<br />นักเรียนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ<br />เตรียมแม่แบบเพิ่มเติม และสื่อสนับสนุนการเรียน<br />นักเรียนที่มีความสามารถเป็นพิเศษ<br /><br />ให้นักเรียนจัดทำบอร์ดเกมที่สอดคล้องกับคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์และการแก้ปัญหา<br />ให้นักเรียนจัดทำแบบทดสอบหรือแบบทดสอบย่อยที่เกี่ยวข้องกับเศษส่วนสำหรับห้องเรียน<br />ผู้เขียนหน่วยการเรียนรู้ / Credits<br />เดวิด แฟรงเคิล (David Frankle) เข้าร่วมอบรมในโครงการ Intel® TeachUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-62225799694362445992009-03-21T02:02:00.000-07:002009-03-21T21:00:15.393-07:00แผนการสอนครูกุสุมา แสงมาศ<div>เศษส่วนที่มองเห็นได้Fraction Made Visual<br /><br />--><br /><br />เหลียวมอง<br />ช่วงชั้น: ช่วงชั้นที่ 2สาระการเรียนรู้: คณิตศาสตร์หัวข้อ: เศษส่วนสาระสำคัญ: เศษส่วน เทคนิคการวิจัย การแก้ปัญหาเวลาโดยประมาณ: 20 ครั้ง ครั้งละ 45 นาที รวมเวลาสำหรับนักเรียนรายบุคคลและกลุ่มย่อยในการทำงานคอมพิวเตอร์<a href="NEED_URL">Learn more ›</a>--><br /> <br /><br />สิ่งที่จำเป็นต้อง<br /><a class="boxlink" href="http://educate.intel.com/th/ProjectDesign/UnitPlanIndex/Fraction_Made_Visual/fraction_Stand.htm" s_oc="null">มาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตร</a> <a class="boxlink" href="http://educate.intel.com/th/ProjectDesign/UnitPlanIndex/Fraction_Made_Visual/fraction_assessment_plan.htm" s_oc="null">แผนการประเมิน </a><a class="boxlink" href="http://educate.intel.com/th/ProjectDesign/UnitPlanIndex/Fraction_Made_Visual/fraction_resources.htm" s_oc="null">แหล่งความรู้ </a><a class="boxlink" href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/UP_Fraction.zip" s_oc="null">ดาวน์โหลดหน่วยการเรียนรู้ฉบับเต็ม</a> (ZIP 547KB)<a class="boxlink" href="http://educate.intel.com/th/ProjectDesign/UnitPlanIndex/Fraction_Made_Visual/fraction_assessment_plan.htm" s_oc="null"></a><a href="NEED_URL">Learn more ›</a>--><br /> <br />สรุปภาพรวมของหน่วยการเรียนรู้ / Unit Summaryนักเรียนจะเรียนรู้ความสำคัญของความแม่นยำทางคณิตศาสตร์และ สวมบทบาทในอาชีพที่ใช้เศษส่วนในหน้าที่การงาน หลังการทำวิจัย นักเรียนจะจัดทำและแลกเปลี่ยนงานนำเสนอด้วยมัลติมีเดียหรือจดหมายข่าวซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรู้เศษส่วนในอาชีพที่เลือก<br />คำถามเพื่อกำหนดกรอบการเรียนรู้ / Curriculum Framing Questions<br />คำถามสร้างพลังคิด / Essential Questions ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริงหรือ<br />คำถามประจำหน่วยการเรียนรู้ / Unit Questions เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วนจะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนเพื่อทำให้งานสำเร็จใช่หรือไม่ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไรเศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วนจะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนเพื่อทำให้งานสำเร็จใช่หรือไม่ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไร<br />คำถามประจำบทเรียน / Content Questions เศษส่วนคืออะไรเราบวก ลบ คูณและหารเศษส่วนได้อย่างไรความแตกต่างระหว่างเศษและส่วนคืออะไรเราเปลี่ยนตัวเลขจำนวนคละเป็นเศษส่วนที่เศษมากกว่าหรือเท่ากับส่วน (improper fraction) ได้อย่างไร<br />กระบวนการประเมินนักเรียน / Assessment Processesศึกษาว่า<a href="http://educate.intel.com/th/ProjectDesign/UnitPlanIndex/Fraction_Made_Visual/fraction_assessment_plan.htm" s_oc="null">การประเมิน</a>ที่หลากหลายซึ่งเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางนำมาใช้ในแผนการจัดการเรียนรู้ การประเมินเหล่านี้ช่วยนักเรียนและครูกำหนดเป้าหมาย กำกับติดตามความก้าวหน้า แสดงความคิดเห็นย้อนกลับ ประเมินกระบวนการคิด การปฏิบัติงานและผลงาน รวมทั้งสะท้อนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นตลอดวงจรแห่งการเรียนรู้<br />ขั้นตอนการสอน / Instructional Proceduresแนะนำหน่วยการเรียนรู้เริ่มหน่วยการเรียนรู้โดยใช้คำถามประจำหน่วย เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วนกระตุ้นให้นักเรียนตอบคำถาม และบันทึกความคิดของตนเองไว้ใน<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Daily_note_template.doc" target="_blank" s_oc="null">บันทึกทางคณิตศาสตร์</a> (DOC 48KB) ระหว่างสัปดาห์แรกของหน่วยการเรียนรู้ ให้แนะนำเศษส่วนโดยใช้งานนำเสนอของครูเรื่อง<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Fraction_Basics.ppt" target="_blank" s_oc="null">เศษส่วนพื้นฐาน</a> (PPT 119KB) เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจเศษส่วนในลักษณะที่เป็นรูปธรรม ให้นักเรียนได้มีประสบการณ์ตรงที่หลากหลายในการใช้เศษส่วนในชีวิตจริง ให้ตกแต่งคุกกี้ตามเศษส่วน แบ่งคุกกี้กระดาษในกลุ่มเพื่อน ศึกษาเรื่องเศษส่วนในชีวิตประจำวัน และจัดทำแม่แบบเศษส่วนของตนเอง หลังจากทำแต่ละกิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนถ่ายภาพชิ้นของเศษส่วนไว้ให้ห้องสมุดดิจิทัลของห้องเรียน ใช้ในโครงงานภายหลัง จดบันทึกการสอนขณะที่นักเรียนฝึกทักษะการบันทึกเป็นเอกสาร ซึ่งอาจต้องทบทวนก่อนทำหน่วยการเรียนรู้นี้ต่อแจก<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Rubric_Fraction_project.doc" target="_blank" s_oc="null">รูบริกโครงงาน</a> (DOC 44.5KB) และอภิปรายข้อกำหนดของหน่วยการเรียนรู้ แจ้งให้นักเรียนทราบว่าเราจะใช้รูบริกนี้เพื่อประเมินการทำงานและความเข้าใจในเรื่องแนวคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เรียนรู้ตลอดหน่วยการเรียนรู้นี้การจัดทำและจัดพิมพ์จดหมายข่าวสัปดาห์ที่สอง ให้นักเรียนมีประสบการณ์ตรงมากขึ้นเกี่ยวกับเศษส่วน ตอนท้ายของสัปดาห์ แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย และให้แต่ละกลุ่มเขียนสรุปกิจกรรมหนึ่งอย่างเพื่อที่จะจัดพิมพ์ใน<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Fraction_Newsletter.doc" target="_blank" s_oc="null">จดหมายข่าวของห้องเรียน</a> (DOC 579KB)แจก<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Rubric_Newsletter.doc" target="_blank" s_oc="null">เกณฑ์การให้คะแนนจดหมายข่าว</a> (DOC 50.5KB) เพื่อใช้เป็นแนวสำหรับกระบวนการ ให้นักเรียนจัดประชุมระหว่างครูและเพื่อนร่วมงานเพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับงานเขียน สอนวิธีการทำหัวเรื่องบทความ การนำไปวางในงานเขียน และใส่กราฟิกหรือภาพถ่ายลงในแม่แบบจดหมายข่าวของห้องเรียนโดยใช้ซอร์ฟแวร์สิ่งพิมพ์ สั่งพิมพ์จดหมายข่าวและจัดส่งไปตามบ้านของนักเรียนการนำเสนอภาพรวมของโครงงานเพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสำคัญของเศษส่วนและความถี่ของการใช้เศษส่วนในชีวิต นักเรียนเรียนรู้ว่าอาชีพต่าง ๆ ใช้เศษส่วนในงานได้อย่างไรใช้คำถามประจำหน่วย จะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และเศษส่วนจำเป็นต่อการทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยใช่หรือไม่ และความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไรให้นักเรียนเขียนคำถามลงใน<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Daily_note_template.doc" target="_blank" s_oc="null">บันทึกทางคณิตศาสตร์</a> (DOC 48KB) รวบรวมบันทึกเป็นระยะ ๆ ตลอดหน่วยการเรียนรู้เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน และปรับการสอนสำหรับรายบุคคลหรือทั้งห้องเรียนหากจำเป็น แจ้งให้นักเรียนทราบว่า จะค้นพบคำตอบของคำถามเหล่านี้ได้ และคำถามประจำหน่วยที่นำเสนอก่อนหน้านี้โดยสวมบทบาทเป็นคนในสาขาอาชีพต่าง ๆ ที่ต้องใช้เศษส่วน ภาระหน้าที่คือค้นหาว่าเศษส่วนสำคัญอย่างไรต่ออาชีพ และความสามารถในการใช้เศษส่วนส่งผลต่อผลการปฏิบัติงานอย่างไร ท้ายที่สุด นักเรียนจะต้องแก้ปัญหาเศษส่วนในชีวิตจริงที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนั้น ๆ ในด้านใดด้านหนึ่ง และสรุปว่าจะนำมาใช้ในชีวิตของเราได้อย่างไรมอบหมายหรือให้นักเรียนเลือกอาชีพที่ต้องใช้เศษส่วนเป็นประจำในการทำงาน หลังจากที่นักเรียนแต่ละคนเลือกได้อาชีพที่ต้องการแล้ว แจก<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Checklist_presentation.doc" target="_blank" s_oc="null">รายการตรวจสอบนักเรียน</a> (DOC 38KB) และอภิปรายข้อกำหนดของโครงงาน ต้องแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจภาระงานที่มอบหมายให้<br />การทำวิจัยและรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการที่หลากหลาย ก่อนที่เราจะให้นักเรียนทำวิจัยอาชีพที่เลือกแล้ว ให้อภิปรายหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะรวบรวมข้อมูลตามหัวข้อที่ต้องการ ให้ระดมสมองหารายการวิธีที่จะรวบรวมข้อมูลและเทคนิคในการค้นหาคำตอบ ถ้าเทคนิคการทำวิจัยที่สำคัญ เช่น การสัมภาษณ์ ไม่อยู่ในรายการ ให้แนะนำเพิ่มเติมด้วย หลังจากที่ทำรายการเสร็จแล้ว อภิปรายแต่ละเทคนิค ชี้ให้เห็นว่าการครอบคลุมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่หลากหลายและการใช้เทคนิคการวิจัยที่แตกต่าง เพิ่มความเชื่อถือและความสนใจต่อโครงงานวิจัยได้อย่างไรจัดเตรียมรายชื่อเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับวิจัยอาชีพที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งแม่แบบทางอิเล็คทรอนิคส์หรือใบงานและบันทึกข้อมูล ใบงานช่วยนักเรียนในการจัดเรียบเรียงงานนำเสนอที่จะจัดทำต่อไป นอกจากนี้ สาธิตเทคนิคการสัมภาษณ์และอภิปรายความสำคัญของการรวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพนั้น ๆ ช่วยกันคิดคำถามสำหรับสัมภาษณ์ที่อาจจะสำคัญเพื่อซักถามผู้เชี่ยวชาญซึ่งสามารถช่วยกำหนดเกณฑ์ของโครงงานและตอบคำถามประจำหน่วย อภิปรายว่าสามารถใช้อีเมล์เป็นเครื่องมือที่จะสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญ เตือนนักเรียนเกี่ยวกับมารยาทและกฎที่ควรปฏิบัติตามเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ตและอีเมล์ แม้แต่เวลาที่ทำวิจัย เผื่อเวลาสองสามวันให้นักเรียนทำวิจัยและสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จัดทำข้อสรุปและการเชื่อมโยงบนพื้นฐานการวิจัยหลังจากที่นักเรียนมีเวลามากพอที่จะรวบรวมและจัดเรียบเรียงข้อมูลว่านำเศษส่วนมาใช้ในแต่ละอาชีพได้อย่างไร ให้นักเรียนเริ่มคิดถึงการประยุกต์ใช้เศษส่วนของตนเอง ในปัจจุบันและอนาคต เตือนนักเรียนว่าในงานนำเสนอควรตอบคำถามประจำหน่วยต่อไปนี้<br />เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่ หรือเราจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเศษส่วน<br />นำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนในการทำให้งานสำเร็จใช่หรือไม่<br />ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไร<br />ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริงหรือ ชี้แนะและช่วยนักเรียนเท่าที่จำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมโยงและทำข้อสรุป จัดการประชุมนักเรียนตลอดกระบวนการวิจัยและโครงงานเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนทำงานถูกต้อง ตอบคำถามและได้รับความเห็นที่มีคุณค่าหลังจากที่นักเรียนเชื่อมโยงระหว่างอาชีพที่ได้รับมอบหมายและของตนเองแล้ว ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาปัญหาเศษส่วนในโลกที่เป็นจริงที่สะท้อนการเชื่อมโยง บอกให้นักเรียนทราบว่าต้องระบุปัญหาที่เกิดจริงในโลกและแสดงขั้นตอนทีละขั้น ถึงวิธีแก้ปัญหา ขณะที่นักเรียนแต่ละคนอธิบายกระบวนการที่ใช้ในแก้ปัญหา นักเรียนควรระบุและครอบคลุมคำตอบสำหรับคำถามประจำบทต่อไปนี้ด้วย<br />เศษส่วนคืออะไร<br />เราบวก ลบ คูณและหารเศษส่วนได้อย่างไร<br />ความแตกต่างระหว่างเศษ และส่วนคืออะไร<br />เราเปลี่ยนเศษส่วนจำนวนคละเป็นเศษเกินได้อย่างไร<br />แนะนำและช่วยนักเรียนเท่าที่จำเป็น ขณะที่แก้ปัญหาและทำข้อสรุปการจัดทำงานนำเสนอหลังจากที่นักเรียนรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยและใช้กับปัญหาเศษส่วนในโลกแห่งความเป็นจริงที่เกี่ยวข้อง ให้แบบฟอร์มผังเค้าโครงเนื้อหาและสอนวิธีเริ่มกระบวนการจัดทำงานนำเสนอด้วย<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Fraction_Chef.ppt" target="_blank" s_oc="null">มัลติมีเดีย</a> (PPT 242KB) ขั้นแรก ให้นักเรียนวางแผนงานนำเสนอด้วยการทำผังเค้าโครงให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ละผังเค้าโครงเนื้อหาควรครอบคลุมหัวเรื่องสไลด์และรายการหัวข้อย่อยของประเด็นสำคัญ เมื่อจัดทำผังเค้าโครงเนื้อหาเสร็จสมบูรณ์ ให้นัดพบกับนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อพูดคุยเรื่องงานนำเสนอและแนะนำสิ่งที่ต้องแก้ไข หลังจากที่ผังเค้าโครงเนื้อหาผ่านการเห็นชอบแล้ว ให้นักเรียนเริ่มทำสไลด์ ชี้แนะแนวทางและช่วยนักเรียนหากจำเป็นขณะที่จัดทำงานนำเสนอการนำเสนองานด้วยปากเปล่าหลังจากที่นักเรียนทำงานนำเสนอเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้จับคู่นักเรียน แต่ละคู่ให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการนำเสนองานด้วยปากเปล่า โดยสลับกันเป็นผู้สัมภาษณ์ และอีกคนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้เวลาหนึ่งหรือสองชั่วโมงในการคิดคำถามสำหรับสัมภาษณ์ และฝึกการนำเสนอ ผู้สัมภาษณ์ (ผู้ช่วยนักเรียน) ถามคำถาม และผู้เชี่ยวชาญ (คนนำเสนอ) โต้ตอบกับคำถามโดยใช้สไลด์เพื่อสนับสนุนประเด็นการพูดคุย จัดสรรเวลาให้นักเรียนนำเสนอโครงงาน อำนวยความสะดวกการอภิปรายภายหลังแต่ละการนำเสนอ อ้างอิงคำถามสร้างพลังคิดอีกครั้ง และให้นักเรียนใช้ข้อมูลที่เพิ่งนำเสนอเพื่อช่วยตอบคำถามต่อไปนี้<br />ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริงหรือ<br />เศษส่วนสำคัญใช่หรือไม่ หรือเราจะดีขึ้นถ้าไม่มีเศษส่วน<br />จะนำเศษส่วนมาใช้ในงานได้อย่างไร และจำเป็นต้องมีเศษส่วนเพื่อให้งานสำเร็จใช่หรือไม่<br />ความเข้าใจเรื่องเศษส่วนสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไร<br />บันทึกการโต้ตอบของนักเรียนลงในแผนภูมิหลังการนำเสนอทั้งหมด ให้ย้อนกลับไปที่แผนภูมิที่ทำเสร็จแล้ว และทำข้อสรุปเรื่องความสำคัญของเศษส่วนการจัดทำ wiki (ทางเลือก)ตลอดหน่วยการเรียนรู้ ให้นักเรียนแก้คำปริศนาประจำวันโดยใช้ชุดเศษส่วน (หรืออื่น ๆ ที่เหมาะสม) ถ้ามีเวลาเพียงพอ ให้นักเรียนคิดปริศนาด้วยตนเองให้เพื่อนแก้คำปริศนา แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย และให้คิดคำปริศนา หลังจากที่แต่ละกลุ่มคิดได้แล้ว ให้จัดทำ wiki ที่มีคำปริศนา แบบฟอร์มการโต้ตอบสำหรับผู้ชมสามารถส่งคำตอบ และท้ายสุดพร้อมคำเฉลยที่อธิบายแนวทางแก้ไขคำปริศนา อนุญาตให้นักเรียนนำคำปริศนาบน wikiไปจัดพิมพ์ และรับฟังความเห็นจากเพื่อนร่วมห้อง พ่อแม่ เพื่อนทางอีเล็คทรอนิคส์ (ePALS) และอื่น ๆ ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ไกลกว่าห้องเรียนสรุปเปิดการอภิปรายเกี่ยวกับคำถามสร้างพลังคิด ความแม่นยำสำคัญขนาดนั้นจริง ๆ หรือ ให้นักเรียนจับคู่ร่วมคิด (Pair and Share) เพื่อพูดคุยหาคำตอบและความเห็นต่อคำถามสร้างพลังคิดโดยใช้ตัวอย่างจากงานวิจัยและโครงงาน ทำการสลับคู่และให้เวลานักเรียนแลกแลกเปลี่ยนกับเพื่อนคนอื่น ๆ จดบันทึกการสอนขณะที่มีการอภิปราย ทำเป็นลายลักษณ์อักษรความเข้าใจในแนวคิดรวบยอดที่เรียนของนักเรียนตลอดหน่วยการเรียนรู้ ให้นักเรียนบันทึกข้อคิดเห็นและความเห็นลงใน<a href="http://download.intel.com/education/common/th/resources/DEP/Fraction_Made_Visual/Daily_note_template.doc" target="_blank" s_oc="null">บันทึกทางคณิตศาสตร์</a> (DOC 48KB) ของตนเอง<br />ทักษะพื้นฐานเดิมของนักเรียน / Prerequisite Skills <br />ประสบการณ์ในการนำเสนอด้วยอิเล็คทรอนิคส์และซอร์ฟแวร์สิ่งพิมพ์<br />ประสบการณ์การใช้เว็บเบราว์ซิ่ง<br />คุ้นเคยกับเศษส่วน<br />ความรู้พื้นฐานเรื่องหลักการการบวก การลบ การคูณ และการหาร<br />การดัดแปลงตามสภาพความต้องการที่แตกต่างกันของผู้เรียน / Differentiated Instructionนักเรียนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษเตรียมแม่แบบเพิ่มเติม และสื่อสนับสนุนการเรียน นักเรียนที่มีความสามารถเป็นพิเศษ<br />ให้นักเรียนจัดทำบอร์ดเกมที่สอดคล้องกับคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์และการแก้ปัญหา<br />ให้นักเรียนจัดทำแบบทดสอบหรือแบบทดสอบย่อยที่เกี่ยวข้องกับเศษส่วนสำหรับห้องเรียน<br />ผู้เขียนหน่วยการเรียนรู้ / Creditsเดวิด แฟรงเคิล (David Frankle) เข้าร่วมอบรมในโครงการ Intel® Teach </div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-86745026794119997092009-03-21T02:00:00.001-07:002009-03-21T02:01:39.095-07:00เศษส่วนUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-22161382250134163022009-03-21T02:00:00.000-07:002009-03-21T02:00:24.381-07:00Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7084648535707007679.post-25487621107371333392009-03-20T19:52:00.000-07:002009-03-20T19:52:12.442-07:00ครูในฟินแลนด์เทวดาน้อย ของ Kainoi<br /><a class="topt" href="http://kainoi.multiply.com/">Home</a><a class="toptsel" href="http://kainoi.multiply.com/journal">Blog</a><a class="topt" href="http://kainoi.multiply.com/photos">Photos</a><a class="topt" href="http://kainoi.multiply.com/video">Video</a><a class="topt" href="http://kainoi.multiply.com/music">Music</a><a class="topt" href="http://kainoi.multiply.com/calendar">Calendar</a><a class="topt" href="http://kainoi.multiply.com/reviews">Reviews</a><a class="topt" href="http://kainoi.multiply.com/links">Links</a><br /><a href="http://kainoi.multiply.com/journal/item/92/92" rel="bookmark">ครูฟินแลนด์ </a><br />Sep 5, '08 10:42 PMfor everyone<br />น่าสนใจว่าทำไมฟินแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศเล็ก มีพลเมืองแค่ 5.2 ล้านคน<br />มีชนกลุ่มน้อยมากมายหลายกลุ่ม<br />ทั้งพวกแลปป์ที่อาศัยในเขตแลปแลนด์ ยิว ตาตาร์ ยิปซี ฯลฯ<br />แต่มีเศรษฐกิจรุดหน้ากว่าหลายชาติ<br />มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ 131.01 พันล้านยูโร<br />ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อคน 25,080 ยูโร พลเมืองน้อย<br />ทรัพยากรธรรมชาติไม่มาก<br />รัฐบาลฟินน์มอบการศึกษาแก่ประชาชนคนของตนยังไง<br />จึงทำให้ฟินแลนด์มีมาตรฐานการครองชีพสูงมากประเทศหนึ่งในยุโรป<br />ฟินแลนด์มีพลเมืองน้อย แต่คนมีคุณภาพสูง<br />เป็นเพราะรัฐบาลทุ่มการศึกษาให้ประชาชนอย่างเต็มที่<br />ฟินแลนด์มีคนเพียงห้าล้านกว่า แต่มี ครู 8 หมื่น<br />และมีบุคลากรทางการศึกษาอื่นอีก 5.5 หมื่น<br />ผมได้รับเอกสารงานวิจัยของ ผศ.ดร.สร้อยสน สกลรักษ์ และ<br />ผศ.ชุติมา พงศ์วรินทร์<br />เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา : เยอรมนีและฟินแลนด์<br />เมื่ออ่านจบครบถ้วนกระบวนความแล้วก็จึงถึงบางอ้อว่า<br />การศึกษาเป็นเครื่องมือที่ยิ่งใหญ่ของทั้งสองประเทศ<br />ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาให้ทั้งเยอรมนี/ ฟินแลนด์ไปยืนแถวหน้าของโลกได้<br />ฟินแลนด์ลงทุนครู ครูในฟินแลนด์มีหลายพวก<br />พวกแรกเป็นครูประจำชั้นที่เรียกว่า class teachers<br />ท่านเหล่านี้สอนชั้นประถม ศึกษา ซึ่งเป็นชั้นที่ 1 ถึง 6<br />อีกพวกหนึ่งเป็นครูประจำวิชาที่เรียกว่า subject teachers<br />พวกนี้สอนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น<br />(ซึ่งเป็นชั้นที่ 7 ถึง 9) + มัธยมศึกษาตอนปลาย + การศึกษาสำหรับผู้ใหญ่<br />คนฟินแลนด์ไม่บ้าปริญญามหาวิทยาลัยเหมือนบ้านเรา<br />นักเรียนจำนวนไม่น้อยไม่เลือกเรียนชั้นมัธยมสายทั่วไป<br />ซึ่งจะต้องไปเรียนต่อปริญญาในมหาวิทยาลัย<br />แต่เลือกเรียนอาชีวศึกษา เพื่อออกมาทำงานที่ใช้ฝีมือ/ แรงงาน<br />มัธยมศึกษาตอนปลายจึงแยกสายสามัญ และสายอาชีวศึกษา<br />บ้านเราเอาครูจบมหาวิทยาลัยสายอื่นมาสอนในโรงเรียนอาชีวศึกษา<br />แต่ที่ฟินแลนด์ไม่ใช่ ครูผู้สอนนักเรียนอาชีวศึกษา<br />ต้องจบมาด้านเดียวกันนี้ด้วย และต้องมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน 3 ปี<br />เมื่อสั่งสมประสบการณ์งานครบแล้ว จึงไปเรียนวิชาชีพครูอีก 1 ปี<br />ใครจะเป็นครูประจำชั้น ซึ่งก็คือสอนประถมศึกษาชั้น 1 ถึง 6<br />จะต้องไปเข้าเรียนและฝึกหัดจากคณะศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย<br />คณะศึกษาศาสตร์จะมีโรงเรียนสาธิตเป็นของตัวเอง<br />เพื่อเอาไว้เป็นสถานที่ใช้ฝึกสอน ทดลอง และวิจัยพลเมือง<br />ฟินแลนด์ร้อยละ 93 เป็นชาวฟินน์ พูดภาษาฟินน์<br />(คล้าย กับภาษาแมกยาร์ของพวกฮังกาเรียน)<br />รัฐจึงให้มีคณะศึกษาศาสตร์ที่สอนเป็นภาษาฟินน์<br />เพื่อผลิตผู้คนให้ออกไปเป็นครูประจำชั้นมากถึง 7 แห่ง<br />ประชากรอีกร้อยละ 6 เป็นชาวสวีเดน<br />พวกนี้พูดภาษาสวีเดน ถ้าผู้อ่านท่านไปที่หมู่เกาะโอลันด์<br />ท่านจะพบว่าผู้คนแถวนั้นพูดภาษาโอลันด์ทั้งนั้น<br />รัฐบาลจึงให้คณะศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย 1 แห่ง<br />สอนการฝึกหัดครูเป็นภาษาสวีเดน<br />ส่วนคนที่ปรารถนาจะเป็นครูประจำวิชา<br />ผมหมายถึงท่านที่ปรารถนาจะไปสอนในระดับมัธยมศึกษา<br />ท่านต้องไปเรียนในคณะที่ท่านจะสอนมาซะก่อน<br />เช่น ท่านจะสอนวิชาฟิสิกส์ ท่านก็ต้องไปเข้าเรียนในคณะฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัย<br />เมื่อจบปริญญาตรีได้วุฒิการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิตทางฟิสิกส์แล้ว<br />ก็ยังสอนไม่ได้ ท่านต้องไปเรียนต่อในคณะศึกษาศาสตร์ให้ได้ประกาศนียบัตรอีกใบหนึ่ง<br />หรือจะเรียนทั้งสองอย่างพร้อมกันไปก็ไม่มีใครว่า<br />จบมาแล้วจึงทำหน้าที่เป็นครูประจำวิชาได้<br />ผู้ที่อยากมีอาชีพเป็นครูอนุบาลและศูนย์เด็กเล็ก<br />ท่านต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางภาษาและการสื่อสารวิชาพื้นฐานวิชาครู<br />และการฝึกสอน การอนุบาลศึกษา และการศึกษาก่อนประถมศึกษา<br />สำหรับครูที่จะสอนในโรงเรียนอนุบาลระดับพิเศษจะต้องจบปริญญาโท<br />ตามหลักสูตรที่กำหนดไว้เท่านั้น<br />เยาวชนคนฟินแลนด์อยากเป็นครู ครูจึงเป็นอาชีพแรกๆที่คนฟินแลนด์<br />เลือก สาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้ฟินแลนด์เจริญเพราะมีการศึกษามีคุณภาพสูง<br />การศึกษาที่ดีมีคุณภาพของฟินแลนด์มาจากการที่มีครูดี<br />รัฐบาลฟินแลนด์ทุ่มสุดตัว<br />ไปที่ครูเขียนเรื่องครูฟินแลนด์แล้วก็ย้อนกลับมาที่<br />ประเทศไทยรัฐบาลไทยทุ่มให้ครูไทยน้อยเกินไป<br />จึงไม่ค่อยมีใครอยากเป็นครู<br />อย่างหนึ่งซึ่งผู้อ่านท่านสังเกตเหมือนผมไหมครับ<br />บัณฑิตเยาวชนคนไทยยุคใหม่บางส่วน ไม่ค่อยมีความอดทน<br />ความรู้น้อย และไม่ค่อยได้คุณภาพหลายสถาบัน<br />ไม่น่าที่จะผลิตมหาบัณฑิต/และดุษฎีบัณฑิตได้ ก็ผลิตUnknownnoreply@blogger.com0